ชีวิตต้องสู้ “น้องเฟิร์น” จ.ศรีสะเกษ
เรื่องเล่า ซี.ซี.เอฟ. เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ พื้นที่ดำเนินงาน จ.ศรีสะเกษ
“อยากกินลูกชิ้นปิ้งแต่ในกระเป๋าไม่มีเงินสักบาท หนูกับพี่ต้องวิ่งเข้าบ้านเพราะไม่อยากเห็นรถขายลูกชิ้นและรอจนกว่ารถจะวิ่งผ่านไป จึงค่อยพากันออกมาเล่นนอกบ้าน” นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงของ “น้องเฟิร์น” จ.ศรีสะเกษ
ในวันที่ครอบครัวต้องตกอยู่ในห้วงเวลาที่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก น้องเฟิร์นยังจำได้ดีว่าตอนนั้นครอบครัวลำบากมาก แต่พวกเราก็พยายามก้าวผ่านความทุกข์นั้นไปให้ได้ “หนูโชคดีมากในชีวิตที่ ซี.ซี.เอฟ. รับเข้าไปอยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ ตอนอายุประมาณ 8 ขวบ หนูจำได้แม่นเลยว่านั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่หนูได้สวมชุดนักเรียนใหม่ไปโรงเรียน หนูไม่ต้องใส่เสื้อเก่าที่ต้องแก้ชื่อคนอื่นที่ปักบนเสื้อค่ะ” น้องเฟิร์นเล่าให้ฟังขณะที่น้ำตากำลังเอ่อล้นด้วยความตื้นตันใจ
แม่ทำงานรับจ้างเป็นหลัก พอถึงช่วงฤดูแล้งแม่จะไม่ค่อยมีงานจ้าง แต่ด้วยภาระที่แม่ต้องดูแลน้องเฟิร์นกับพี่สาวที่กำลังอยู่ในวัยเรียนและน้องสาวที่ตอนนั้นก็ยังเป็นเด็กทารก ทำให้ทั้งสี่ชีวิตไม่มีอาหารกินอิ่มท้องได้ครบทุกมื้อ แต่หลังจากมูลนิธิฯ เริ่มเข้ามาดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เราจึงเห็นรอยยิ้มของแม่บ่อยขึ้น แต่ช่วงเวลาแห่งความสุขก็เกิดขึ้นไม่นานนัก หลังจากที่แม่ทราบจากผลตรวจโรคจากหมอว่าน้องสาวคนเล็กเป็นเด็กมีพัฒนาการช้าและดูแลตัวเองไม่ได้ “ตอนนั้นหนูสงสารแม่มาก ๆ เพราะพวกเราก็ไม่มีเงินแถมรถก็ไม่มี พอถึงเวลาที่จะต้องพาน้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลครั้งหนึ่งก็ต้องเหมารถไปซึ่งต้องใช้เงินเยอะ ตอนนั้นหนูกับพี่สาวทำได้เพียงออกไปรับจ้างให้ได้มากที่สุด เช่น ขุดมัน กรีดยาง เกี่ยวข้าว ฯลฯ เพื่อช่วยแม่ให้พอมีเงินพาน้องไปโรงพยาบาล” ทุกคนในครอบครัวทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจและพร้อมที่จะทำงานทุกอย่างที่มีมาให้ทำโดยไม่เกี่ยงงาน ขอเพียงเป็นงานสุจริตและไม่เบียดเบียนใคร
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ นอกจากการเรียนที่หนักน้องเฟิร์นก็ยังทำงานอย่างหนักเช่นกัน เพราะแม้ว่าตอนนี้ “เฟิร์น” จะเรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษาปีที่ 1 แล้ว แต่เมื่อมีวันหยุดเฟิร์นก็จะเดินทางจากหอพักเพื่อกลับบ้านไปช่วยแม่เลี้ยงวัวและหางานมาทำที่บ้านแบ่งเบาภาระของแม่ เช่น การทอพรมเช็ดเท้า ซึ่งเงินที่ขายพรมได้ผืนละ 20 บาท เก็บหอมรอบริบไว้เป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับเล่าเรียน เพราะฝันอยากเป็น “พยาบาลทหาร” อาชีพที่มีเกียรติและได้ช่วยเหลือผู้อื่น
แม้หนทางอีกยาวไกลแต่ยังสู้ต่อไปด้วยใจที่เข้มแข็งและมุ่งมั่นว่าสักวันแม่และพี่น้องจะได้มีชีวิตที่อยู่อย่างสุขสบายขึ้น “ถึงความจนมันน่ากลัวแต่หนูดีใจที่ได้เกิดเป็นลูกของแม่ แม้ว่าครอบครัวของหนูจะไม่ได้ร่ำรวยและอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาเหมือนคนอื่น แต่แม่หนูไม่เคยทำให้รู้สึกว่าพวกเราขาดอะไรเลย แม่เป็นคนเข้มแข็งและไม่เคยย่อท้อต่อปัญหา หนูดีใจที่ได้อยู่ในครอบครัวนี้ค่ะ”
ในชีวิตของคนเราทุกคนนั้น คงต้องยอมรับความจริงว่า... เรานั้นไม่อาจเลือกเกิดได้ตามใจปรารถนา ถ้าให้เลือกเกิดได้ เชื่อว่าทุกคนคงเลือกที่จะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะ มีเงินมีทอง เพื่อที่จะได้มีชีวิตที่สุขสบาย แม้วันนี้เราจะเลือกเกิดไม่ได้แต่เราก็เลือกที่จะทำชีวิตให้ดีได้ ขอเพียงเรามีหัวใจนักสู้ที่ยิ่งใหญ่และไม่มีวันยอมแพ้
เผยแพร่เมื่อ : 23 กันยายน 2567