ท่องถิ่นธรรม “วัดถ้ำแสงเพชร” จังหวัดอำนาจเจริญ
“คนดีไม่มีที่อื่น อยู่ที่ตัวเรา ถ้าเราดี เราไปไหนมันก็ดี เขาจะนินทา เขาจะสรรเสริญ เราก็ยังดีอยู่”
พระธรรมเทศนา พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
หลาย ๆ จังหวัดในเมืองไทย แม้เป็นเมืองผ่านไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลัก แต่หากมีโอกาสได้ไปเยือน แล้วใช้เวลาสักนิดเพ่งพินิจสำรวจ ก็จะพบมนต์เสน่ห์ของเมืองผ่านดังเช่นที่จังหวัดอำนาจเจริญ
วัดสี่แยกแสงเพชร หรือที่เรียกกันว่า วัดถ้ำแสงเพชร เป็นอีกหนึ่งสถานที่พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวนิยมแวะมาทำบุญ ปฏิบัติธรรม ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ บริเวณวัดตั้งอยู่บนภูเขาสูง ท่ามกลางป่าไม้อันร่มรื่นมีต้นไม้นานาชนิดขึ้นเขียวชอุ่ม ภายในบริเวณวัดประกอบด้วย เจดีย์สีทององค์ใหญ่ ภายในประดิษฐานรูปเหมือนหลวงปู่ชา สุภัทโท ผู้ริเริ่มสร้างวัดถ้ำแสงเพชร ทางด้านทิศเหนือของวิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีถ้ำขนาดใหญ่ที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปตามจุดต่าง ๆ ให้ผู้เข้าชมได้กราบไหว้สักการะ บริเวณโดยรอบแวดล้อมด้วยโขดหินน้อยใหญ่มากมาย เหตุที่ได้ชื่อว่าถ้ำแสงเพชรก็เนื่องมาจากประกายของเกล็ดหิน ยามเมื่อต้องกับแสงตะวัน จะวาววับคล้ายกับแสงเพชร
“วัดถ้ำแสงเพชร” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สงบเงียบเหมาะแก่การนั่งวิปัสสนา เป็นแหล่งธรรมะ เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อศึกษาธรรมชาติเพราะมีต้นไม้น้อยใหญ่ในแต่ละฤดูกาล ที่พลาดไม่ได้ ก็คือ "ซุ้มไผ่" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่มีความสวยงามตลอดทั้งปี
คุณจำเนียร ศรีสุข กรรมการบริหารโครงการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดอำนาจเจริญ เล่าถึงประสบการณ์ที่เคยมากราบไหว้พระที่วัดแห่งนี้ให้ฟังว่า “วัดพระถ้ำแสงเพชรเป็นสถานที่ที่มีความเงียบสงบมาก ที่นี่เป็นวัดป่าและสถานปฏิบัติธรรมทุก ๆ ปีจะมีผู้ที่แวะเวียนมานั่งสมาธิและกราบไหว้พระที่วัดแห่งนี้จำนวนมาก ครั้งหนึ่งที่ดิฉันเคยเข้าไปไหว้พระที่อยู่ในถ้ำทำให้รู้สึกว่าจิตใจสงบและผ่อนคลายขึ้นและเชื่อว่าการได้มากราบไหว้พระในถ้ำจะช่วยเสริมสร้างบุญบารมีและความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตตนเองและครอบครัวค่ะ”
“การได้ไหว้พระและสักการะในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบแบบนี้ ทำให้รู้สึกถึงความสงบในจิตใจของตนเอง เมื่อเดินเข้าไปบริเวณถ้ำก็สัมผัสถึงความรู้สึกเย็นสบายจากธรรมชาติรอบตัว ทั้งนกร้อง กระรอกป่าวิ่งเล่นบนยอดไม้ ละอองน้ำที่หยดจากภูเขาลงมากระทบลงโขดหิน ช่วยให้อากาศด้านบนไม่ร้อนจนเกินไปแม้ในช่วงเวลากลางวัน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ช่วยดึงสติให้กลับมาอยู่กลับตัวได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ว่างเว้นจากการทำงานในวันหยุด เพราะในการทำงานทุก ๆ คนก็ย่อมอยากให้งานที่ทำประสบความสำเร็จ บางครั้งก็ทำให้เกิดความเครียด การเข้าวัด นำหลักธรรมมาปรับใช้ในชีวิตการทำงานก็ช่วยให้ใจเบาขึ้น ใจเย็นขึ้น พยายามใช้เหตุและผลจนเจอวิธีแก้ปัญหาได้บ่อยครั้งค่ะ” พี่จิ๋ว หัวหน้าโครงการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ในพื้นที่ดำเนินงานจังหวัดอำนาจเจริญ เล่าให้ฟังก่อนเดินสำรวจพร้อมเก็บภาพบรรยากาศโดยรอบบริเวณวัด
“พี่เอี้ยง” เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. พื้นที่ดำเนินงาน จังหวัดอำนาจเจริญ เล่าขณะยืนอยู่บริเวณหน้าองค์สถูปเจดีย์ภายในวัดให้ฟังว่า “เมื่อมีโอกาสได้ลงพื้นทำงานร่วมกับภาคีหรือหน่วยงานอื่น ๆ บ่อยครั้งก็ได้มีโอกาสพาผู้บริหารและภาคีหลายท่านที่ทำงานร่วมกับมูลนิธิฯ รวมถึงผู้ปกครองเด็ก ซี.ซี.เอฟ. แวะมากราบไหว้หลวงปู่ชาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะโดยส่วนตัวพี่เอี้ยงก็มักใฝ่หาความสงบร่มเย็นให้กับตนเอง ยิ่งต้องผู้ทำงานในองค์กรที่มีความแตกต่างกัน การนำหลักธรรมมาเสริมให้ใจเป็นสุขด้วย "สังคหวัตถุ 4" หลักธรรมที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวนำใจของผู้อื่น การผูกไมตรีและเอื้อเฟื้อเกื้อกูล เพราะการทำงานในมูลนิธิฯ ทุกคนต่างก็ต้องอาศัยการเอื้อเฟื้อแบ่งปัน เมื่อเรามีความปรารถนาดีต่อกัน งานก็จะผ่านไปได้อย่างราบรื่นและประสบผลสำเร็จได้อย่างแน่นอนค่ะ
เผยแพร่เมื่อ : 17 ตุลาคม 2567