ปลูกผักอินทรีย์ วิถีพอเพียง "น้องฟาร์ม" จ.เลย
"ยายชอบปลูกผัก เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ผมชอบเก็บไข่ตอนเช้า ๆ มันสนุกและก็ได้ลุ้นว่าวันนี้เราจะได้ไข่กี่ฟอง ผมอยู่กับยายตั้งแต่ยังเล็ก พ่อกับแม่ทำงานต่างจังหวัดจึงได้เดินเก็บผักกับยายเกือบทุกวัน เวลาที่เห็นผักตามรั้วบ้านยายมักจะสอนผมเสมอว่าผักสามารถเก็บนำมากินได้ไม่ต้องซื้อหา อาหารที่กินจึงแทบไม่ต้องใช้เงินจ่าย บางทีถ้าวันไหนเก็บผักไปขายได้เยอะ ๆ ผมก็จะมีเงินเหลือพอหยอดกระปุกบ้าง" น้องฟาร์มเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้ม ขณะพาพี่ ๆ เจ้าหน้าที่ ซี.ซี.เอฟ. จ.เลย ไปเดินดูแปลงถั่วฝักยาวที่มีผลผลิตพอไปเก็บขาย
ในช่วง ปี 2563 สถานการณ์โควิดแพร่ระบาดหนัก พ่อและแม่น้องฟาร์มต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน ครอบครัวจึงเริ่มช่วยกันปลูกผักกินเอง ศึกษาการทำเกษตรอินทรีผักปลอดสารพิษ โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ หลังจากปลูกผักมากขึ้นก็เก็บผลผลิตเก็บได้มาก เหลือจากกินในครัวเรือนก็นำผักออกขายให้กับคนในหมู่บ้าน จนตอนนี้ผักของครอบครัวน้องฟาร์มเป็นที่รู้จักในชุมชน ผักที่ปลูก เช่น ผักสลัด กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก หัวไชเท้า แตงกวา ถั่วพู ถั่วฝักยาว ขึ้นฉ่าย ทำให้ครอบครัวมีรายได้หมุนเวียนทุกวัน อย่างน้อยวันละ 300 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือนประมาณ 9,000 บาท
"ตอนนี้ที่บ้านผมได้ปลูกผักหลายอย่างเลยครับ และเมื่อต้นปี 2567 ครอบครัวผมได้รับการสนับสนุนพันธุ์พืชจากมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ เช่น มะเขือ ผักชี คะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น เราจึงมีเมล็ดพันธุ์ผักหลากหลายขึ้น ปลูกได้เยอะขึ้น พ่อและแม่ก็กลับมาทำงานที่บ้าน ได้อยู่กับผมกับยายแถมยังมีเงินเหลือให้ผมไปโรงเรียนด้วย ผมก็จะออมเก็บไว้เพื่อเป็นทุนการศึกษาไว้เรียนสูง ๆ ครับ"
"เป้าหมายในอนาคตก็คิดว่าจะขยายพื้นที่ปลูกผักอินทรีย์ให้เพียงพอต่อจำนวนที่ลูกค้าสั่ง และถ้ามีโอกาสก็อยากจะแบ่งปันความรู้ให้กับคนในชุมชน ให้หันมาปลูกผักปลอดสารพิษกินเอง เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนค่ะ" คุณเตือนใจ แม่ของน้องฟาร์ม กล่าวสั้น ๆ ขณะจัดถุงผักเรียงใส่ตระกร้าท้ายรถมอเตอร์ไซค์เตรียมส่งให้ลูกค้าในหมู่บ้าน
ร่วมสนับสนุนเงินบริจาค ได้ที่ https://bit.ly/4aBxI7D
#มูลนิธิซีซีเอฟ #CCF
เผยแพร่เมื่อ : 2 พฤษภาคม 2567