เรื่องเล่าจาก CCF

จุดพลิกผันของชีวิตของ ปิค ผดุงเกียรติ

เสียงมอเตอร์ไซค์ดังกระหึ่มหน้าสำนักงานบ่ายวันหนึ่ง ทำให้ผมเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำค้างอยู่ ผู้ชายคนหนึ่งเจาะหู นุ่งกางเกงยีนส์ขาดๆ เดินลงจากรถด้วยท่าทางดูนักเลง ถ้าไม่มาปล้นสำนักงานก็ต้องมาหาเรื่องใครแน่ๆ ตอนนั้นผมได้แต่คิดในใจ ที่สำนักงานเราไม่มีของมีค่าอะไรเลยนะ นอกจากกระดาษกับเอกสารเต็มไปหมด แต่ผิดคาด... เด็กหนุ่มคนนั้นเดินตรงเข้ามาหากับคำพูดนุ่มๆ ว่า

"พี่ๆ รับอาสาสมัครช่วยงานไหมครับ ผมอยากเป็นอาสาสมัครทำงานกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ."

ปิค หรือ ผดุงเกียรติ คำแสน อายุ 23 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านนาแค อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี  เป็นลูกคนที่ 3 ของครอบครัว ที่ค่อนข้างยากจน  เพราะพ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียน อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องความรัก ปิคจึงได้เรียนจบเพียงชั้น ม. 6 ตอนนั้นปิครู้สึกว่าตัวเอง "ไร้ค่า" เรียนไม่จบปริญญาตรีตามที่พ่อแม่คาดหวัง คนในชุมชนต่างมองว่าเขาเป็นเด็กเกเร ทุกคนเอือมระอากับพฤติกรรมของเขา

"สมัยเรียนหนังสือช่วงมัธยมผมนี่จับกลุ่มโดดเรียนกับเพื่อนประจำ ใครจะต่อยกับเด็กต่างโรงเรียนบอกผมได้เลย ผมไม่เคยกลัวใคร ถ้าเพื่อนถูกทำร้ายเมื่อไรขอให้เรียก ผมพร้อมไปช่วยเพื่อนตลอด  ช่วงนั้นผมติดเพื่อนและรักเพื่อนมากเลยครับ" ปิค เล่าถึงชีวิตวัยรุ่นที่ผ่านมา

ปิค เกิดและเติบโตมาพร้อมกับการเห็นพี่ชายของเขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของ ซี.ซี.เอฟ. จนมาวันหนึ่งปิคมีโอกาสตามพี่ชายของเขาไปช่วยงานมูลนิธิฯ ที่โรงเรียน แต่สิ่งที่ปิคพบคือ สายตาของคุณครูมองมาที่เขาเหมือนกับว่าเขาจะชวนนักเรียนเกเรหรือเปล่า จะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้จริงหรือเปล่า ภาพลักษณ์ในตอนนั้นปิคเป็นคนที่ติดลบในทุกๆ ด้าน

"ตอนนั้นผมยังเด็กมากครับ  ผมเคยสงสัยว่าพี่ชายผมทำงานอะไร น่าสนุกดี  ได้พาเด็กในชุมชนทำกิจกรรม แล้วทำไมมีคนใจดีส่งสิ่งของมาให้เด็กๆ ในชุมชน? เด็กๆ เขาไปทำกิจกรรมอะไรกันเยอะแยะมากมาย?" ปิคกล่าวและได้แต่ตั้งข้อสงสัยเรื่อยมา

แต่แล้ววันหนึ่ง ด้วยความเบื่อสายตาของคนอื่นมองเขาอย่างหวาดระแวง แม้แต่จากพ่อแม่ของเขาเอง ปิคจึงเสี่ยงเดินเข้ามาสมัครเป็นอาสาสมัครที่สำนักงาน ซี.ซี.เอฟ. ทั้งๆ ที่กังวลว่าเขาคงถูกปฏิเสธแน่นอน แต่ผิดคาด หัวหน้าสำนักงานกลับตอบรับเขา  

"มีสิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นกับชีวิตผมครับ ตั้งแต่ ซี.ซี.เอฟ. ให้โอกาสผมทำงาน นี่เป็นจุดผลิกผันในชีวิตของผมจริงๆ"

วันนี้ ปิค สามารถพิสูจน์ตัวเองกับคนในชุมชน และคนในครอบครัว ว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ในแต่ละวันปิคทำงานในบทบาทอาสาสมัคร ที่ต้องใช้ทักษะการวางแผนงาน การทำงานร่วมกับชุมชน การพูดในที่สาธารณะ  และการวางตัว บทบาทใหม่ในชีวิตครั้งนี้ทำให้ปิคมองเห็นถึง "คุณค่า" ของตัวเอง  สายตาของคุณครูหรือคนในชุมชนที่มองเขานั้นเปลี่ยนไป ปิคได้รับการยอมรับในฐานะตัวแทนของผู้ใหญ่ใจดี  ปิครู้สึกว่าเขามีตัวตนในชุมชน  มีน้องๆ และคนรู้จักมากมายมาขอคำปรึกษาจากเขาในฐานะรุ่นพี่ที่มีความรู้ในงานที่ทำ 

ทุกวันนี้เมื่อปิคหลับตานึกย้อนกลับไปในอดีต เข้ารู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่ก้าวข้ามช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้ เขาขอบคุณมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. ที่ให้โอกาสเด็กเกเรคนหนึ่งได้รู้จักคำว่า "ให้" และที่สำคัญคือมูลนิธิฯ "ให้คุณค่า" ที่เขาบอกว่าหาที่ไหนไม่ได้เลยถ้าหากไม่ก้าวเข้ามาทำงาน ณ ที่แห่งนี้


ปิค แจกเสื้อวอร์มของมูลนิธิฯ ให้กับน้องๆ ที่โรงเรียน ปิคได้รับความร่วมมือจากคุณครูเป็นอย่างดี

ปณิวัฒน์ สีหาทับ
โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จ.อุดรธานี
1 สิงหาคม 2559  

ร่วมบริจาคช่วยเหลือเด็ก

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสาร

ข้อมูลของท่านจะถูกจัดเก็บรักษาความปลอดภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

English

ร่วมบริจาคช่วยเหลือเด็ก