ปกติน้องไม่เคยได้ของขวัญวันเกิด
ไม่เคยมีเค้กวันเกิดเหมือนเด็กคนอื่น ๆ

วันเกิด จึงเป็นแค่เพียงวันธรรมดาเหมือนวันอื่นทั่วไป จนวันนี้ ที่พี่ ๆ ซี.ซี.เอฟ. มาหาพร้อมมอบของขวัญที่เป็น กล่องใบใหญ่ และการ์ดอวยพรให้น้องสิบทิศ ดิฉันปลื้มใจและดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ  แม่ของน้องสิบทิศพูดด้วยน้ำเสียงตื้นตันใจ

"น้องสิบทิศ" อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 ครอบครัวมีรายได้จากการทำงานรับจ้างกรีดยางพารา รายได้ค่อนข้างน้อย เงินแทบไม่พอใช้จ่ายในบ้านและด้วยชีวิตความเป็นอยู่ที่ยากลำบากพ่อแม่ต้องทำงานหาเช้ากินค่ำวันเกิดของน้องสิบทิศจึงเป็นเพียงวันธรรมดาเหมือนวันปกติทั่วไป

ไม่คิดว่าจะได้รับของขวัญจากผู้อุปการะ ทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าท่าน ไม่เคยได้ยินเสียงท่าน แต่ท่านยังห่วงใยผมครับ น้องสิบทิศพูดอย่างอารมณ์ดีและตื่นเต้น ผมดีใจมากครับ มันเป็นของขวัญชิ้นแรกในชีวิตผม ผมไม่เคยคิดว่าจะได้ของขวัญเลยครับ น้องสิบทิศพูดต่อพร้อมเขียนจดหมายด้วยลายมือที่มีตัวหนังสือโย้เย้ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ ขณะที่มีแม่และคุณครูนั่งข้าง ๆ คอยบอกให้เขียนจดหมายถึงผู้อุปการะด้วยตัวบรรจง

ของขวัญจากผู้อุปการะที่ส่งไปถึงมือน้องสิบทิศ เป็น ของขวัญชิ้นแรกที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับน้องสิบทิศและครอบครัว ผู้อุปการะใจดีมากค่ะ เพราะแม้ว่าไม่ได้เป็นญาติแต่ยังใส่ใจกับพวกเขา ดิฉันทำหน้าที่เพียงผู้ส่งต่อความห่วงใย แต่ก็รู้สึกอิ่มใจมาก เมื่อได้เห็นแววตาสีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขใจ ตอนที่น้องสิบทิศเปิดกล่องของขวัญ มันเหมือนช่วยเติมเต็มเป็นพลังใจในการทำงาน ให้เข้มแข็ง และอยากสู้ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย เพราะคำว่า "ขอบคุณ" จากเด็ก ๆ แม้ว่าจะเป็นคำสั้น ๆ แต่ก็เป็นคำที่มีความหมาย สามารถส่งต่อพลังบวกให้กับ ทั้งผู้พูด และผู้ฟัง ยิ่งให้ ก็ยิ่งได้ ซึ่งทำให้เรามีความสุขที่ได้ทำสิ่ง ๆ ดี ๆ นี้ทุกวันค่ะ”

รูไกหย๊ะ แดงทิ้ง เจ้าหน้าที่ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ผู้นำส่งของขวัญความสุขในครั้งนี้เล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มขณะช่วยน้องสิบทิศตรวจทานคำในการ์ดที่น้องสิบทิศเขียนถึงผู้อุปการะ