1,034 ครอบครัวใน 3 หมู่บ้านที่จังหวัดพะเยา และอีก 1 หมู่บ้านที่จังหวัดนครพนม ที่ต้องปิดหมู่บ้านเพราะโควิด-19 ระบาดในชุมชน ได้รับ “ถุงยังชีพ” เยียวยาความเดือดร้อนเร่งด่วนในภาวะที่ต้องกักตัว
พร้อม ๆ กับจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องจนเกือบถึง 10,000 คนต่อวัน คือการกระจายตัวของผู้ที่ได้รับเชื้อไปสู่หมู่บ้านในจังหวัดต่าง ๆ ทำให้หน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จำเป็นจะต้องออกคำสั่งปิดหมู่บ้านตามมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ปิดทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ห้ามคนในหมู่บ้านเดินทางออกนอกชุมชน และห้ามไม่ให้บุคคลภายนอก บุคคลจากพื้นที่เสี่ยงเดินทางเข้าภายในหมู่บ้าน รวมถึงคำสั่งห้ามรถเร่ขายของเข้ามาภายในชุมชนด้วย ส่งผลกระทบทันทีโดยเฉพาะต่อภาวะการกินอยู่ของทุกคนในหมู่บ้าน
ด้วยความห่วงใยที่มีต่อเด็กและเยาวชน รวมถึงครอบครัว และทุกคนที่อาศัยในชุมชน มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ได้เร่งดำเนินการส่งมอบความช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉินนี้ทันที ได้มอบ “ถุงยังชีพ” ประกอบด้วยอาหารแห้ง น้ำดื่ม และอาหารว่างสำหรับเด็ก ช่วยเหลือ 1,034 ครอบครัวในชุมชน 3 หมู่บ้านที่จังหวัดพะเยา และอีก 1 หมู่บ้านที่จังหวัดนครพนม ที่จะต้องปิดชุมชนเพราะมีการพบผู้ติดเชื้อในหมู่บ้าน ทั้งนี้การส่งมอบถุงยังชีพได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ผ่านการประสานงานกับภาคีเครือข่ายในชุมชน ทั้งเจ้าหน้าที่ปกครอง ผู้นำชุมชน คณะกรรมการหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมีอาสาสมัครชุมชนของมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ช่วยนำส่งถุงยังชีพให้กับแต่ละครอบครัวต่อไป
“ที่ตำบลร่มเย็นมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จังหวัดพะเยาจึงออกคำสั่งปิด 3 หมู่บ้านเพื่อจำกัดการระบาดไม่ให้ขยายวงออกสู่นอกชุมชน ทางมูลนิธิฯ โดยการสนับสนุนจากพันธมิตร คือ บริษัท ฝนทองพาณิชย์ จำกัด และความร่วมมือกับ อบต.ร่มเย็น ร่วมกันเร่งจัดชุดยังชีพนำไปส่งมอบให้กับ 782 ครอบครัวใน 3 หมู่บ้านที่ประสบภาวะฉุกเฉินนี้ สำหรับ 3 หมู่บ้านในจังหวัดพะเยาที่ต้องปิดตัวนี้ มีเด็กในความอุปการะของมูลนิธิฯ 128 คน ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่มีใครได้รับเชื้อแต่อย่างใด” เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดพะเยา กล่าวถึงการมอบความช่วยเหลือและการติดตามดูแลเด็กในความอุปการะในภาวะการระบาดของโควิด-19
ด้าน เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดนครพนม ได้เล่าถึงการทำงานในภาวะฉุกเฉินนี้ว่า “มูลนิธิฯ มีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับอาสาสมัครในชุมชน เป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เราสามารถส่งมอบความช่วยเหลือถึงเด็ก ครอบครัว และชุมชนบ้านคำสว่างทั้ง 252 ครอบครัวได้โดยทันที และนับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ทางมูลนิธิฯ ได้มีการมอบหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์จำเป็น รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้เพื่อการป้องกันตนเองจากการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับเด็ก ๆ ทำให้เด็กในความอุปการะของมูลนิธิฯ 49 คน และเด็กคนอื่น ๆ ในชุมชนบ้านคำสว่างมีความพร้อมที่จะดูแลตนเองให้ปลอดภัย ในส่วนของผู้ที่ได้รับเชื้อในชุมชนนั้น ได้มีการส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพนมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อก็ได้เข้ากักตัวที่ศูนย์กักตัวของชุมชนเพื่อสังเกตอาการ อย่างไรก็ตาม ผู้นำชุมชนและคณะกรรมการหมู่บ้านยังคงยืนยันการปิดหมู่บ้านต่อไปจนกว่าสถานการณ์การระบาดจะดีขึ้น”
ความช่วยเหลือที่ได้นำส่งอย่างเร่งด่วนถึงเด็ก ครอบครัว และชุมชน ในภาวะฉุกเฉินของการระบาดจากโควิด-19 นี้ เกิดขึ้นได้เพราะความห่วงใยและการแบ่งปันที่ผู้อุปการะ ผู้บริจาคทุกท่าน ได้มอบให้แก่พวกเขา มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ขอเป็นตัวแทนเด็ก ครอบครัว และชุมชน ขอบคุณท่านมา ณ โอกาสนี้