ก่อนนั้นเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2554 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงเป็นฝันร้ายหลอกหลอนชาวบ้าน ตำบลน้ำไผ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อฝนได้ตกมาย่างหนักต่อเนื่องกันหลายวัน พื้นดินอุ้มน้ำไว้จำนวนมหาศาลเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม นำมาสู่การเหตุการณ์ความสูญเสีย
และ 11 ปี ต่อมา เมื่อ 21 สิงหาคม 2565 ในยามค่ำคืนที่ฝนตกกระหน่ำฟ้ารั่วไม่ขาดสาย จากอิธิพลของ “พายุมู่หลาน” ทำให้ฝนตกสะสมเป็นระยะเวลานาน 2-3 วัน และทุกคนต่างไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อ 11 ปีที่แล้วที่เป็นฝันร้ายของพวกเขาจะย้อนหวลกลับคืนมาอีกครั้ง
ในยามดึกดื่น ตี 2 ของคืนนั้น เสียงดังครืนครั่น น้ำป่าบนเขาสูงได้พัดพาเอาเศษกิ่งไม้เล็กท่อนไม้ใหญ่จากบนเขา ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ทุกคนผวาตื่นนอน ต่างรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นและหนีเอาตัวรอด บางคนบางครอบครัวก็หนีได้แต่เพียงตัว ไม่สามารถนำสิ่งของ มีค่าอื่น ๆ ติดตัวหนีไปได้ หวังอย่างเดียวว่า ต้องเอาชีวิตตัวเอง และคนในครอบครัวให้รอด
น้ำป่าสีแดงขุ่นข้น ไหลเข้าท่วมอย่างรวดเร็วและรุนแรง พัดพาสิ่งกีดขวางข้างหน้าเสียหายพังราบ ไม่ว่าจะเป็นสะพาน ถนนเส้นทางคมนาคมขาด พืชสวน ไร่นาเสียหาย ไฟฟ้าดับแลดูสับสนและวุ่นวาย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีผู้สูญหาย และเสียชีวิต มีบ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง จำนวน 2 หลังคาเรือน เสียหายบางส่วน 40 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบ 350 หลังคาเรือน จากกว่า 4 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ส่วนหมู่บ้านอื่น ๆ ที่อยู่นอกเส้นทางน้ำป่าไหลหลาก ได้รับผลกระทบเล็กน้อย
มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชน สำนักงานจังหวัดอุตรดิตถ์ รวมถึงหลายภาคส่วนต่างทยอยและรีบเร่งช่วยเหลือฟื้นฟูและให้ความช่วยเหลือทั้งข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนเบื้องต้น