"...สังคมใดก็ตาม ถ้ามีการสงเคราะห์อนุเคราะห์ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมมีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่ เต็มไปด้วยไมตรีจิตมิตรภาพ..."

พระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2546 

"เด็ก" คือ ทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด พวกเขาคือคำมั่นสัญญา ศักยภาพ และความหวังของเราในอนาคต แต่ในวันนี้เด็กกว่า 500 คน ยังตกอยู่ในความทุกข์ยาก ไม่มีจะกินหรืออยู่กับผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยเรื้อรังและไม่มีรายได้แน่นอน

น้องครีม ไม่เคยได้สัมผัสอ้อมอกอบอุ่นของพ่อแม่ เพราะพ่อเสียชีวิตด้วยโรคร้ายที่สังคมรังเกียจ เมื่อเธออายุได้เพียง 7 เดือน ส่วนแม่ก็ติดโรคร้ายจากสามีก็ต้องกระเซอะกระเซิงหลบหนีคำตราหน้าของเพื่อนบ้านไปรับจ้างต่างถิ่น หาเงินส่งมาเป็นค่านม ค่าอาหารของน้องครีม แม้จะแสนเศร้าที่ต้องทิ้งเลือดในอกไว้ให้ยายเลี้ยง และแสนห่วงเนื่องจากยายเองก็ทนทุกข์จากโรคความดันโลหิตและปวดหัวเข่าจนทำงานประจำไม่ได้ ในแต่ละวันยายได้แต่ไปรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ วันใดที่ไม่มีงานจ้าง ยายก็ต้องไปเก็บของป่ามาขายแลกข้าวกินมื้อต่อมื้อ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นความที่ยายไม่มี สัญชาติไทยจึงไม่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และต้องเสียค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยต้องไปโรงพยาบาล

เมื่ออายุได้สองขวบกว่า น้องครีม ก็ตกเป็นเหยื่อความไม่เข้าใจของคนในหมู่บ้านอีกครั้ง เมื่อยายพาเธอไปฝากเลี้ยงที่ศูนย์เด็กเล็ก พ่อแม่เด็กอื่น ๆ รุมกันชิงชังรังเกียจเด็กน้อยไร้เดียงสาคนนี้ ด้วยเกรงว่าเธอจะแพร่โรคร้ายให้แก่ลูก ๆ ของเขา แม้ครูจะพร่ำอธิบายว่าโรคนี้ไม่ได้ติดต่อกันง่าย ๆ ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งคุณหมอคนหนึ่งแนะนำให้พาเธอไปตรวจเลือด และโรงพยาบาลได้ออกใบรับรองว่าเธอไม่ได้รับเชื้อจากแม่ การต่อต้านจึงค่อยเบาบางลง แต่โชคร้ายก็กระหน่ำมาอีกครั้ง เมื่อแม่น้องครีมเริ่มอาการทรุดลงจนต้องนอนโรงพยาบาลถึง 3 อาทิตย์ ระหว่างนั้นแม่ไม่มีรายได้เลย เหลือเพียงยายคนเดียวที่ต้องเป็นหลักในการหาเลี้ยง ปากท้องของทุกชีวิตในครอบครัว

เด็กๆ ก็เหมือนกับ ต้นไม้ ต้องการการดูแลเอาใจใส่
ใจที่เมตตาของท่าน...สามารถกู้วิกฤติชีวิตของเด็กน้อยให้เติบโตได้

เงิน 600 บาท อาจไม่พอสำหรับเฉลิมฉลองปีใหม่ แต่เงินก้อนนี้ชุบชีวิตเด็กที่กำลังทุกข์ยากแสนสาหัสได้อย่างแน่นอน เพียงวันละ 20 บาท หรือ 600 บาทต่อเดือนอย่างต่อเนื่อง ท่านสามารถมอบชีวิตใหม่ให้เด็กได้กินอิ่มท้อง ได้ไปโรงเรียน ได้รับการดูแลสุขภาพ และได้รับโอกาสพัฒนาศักยภาพเพื่อมีอนาคตที่สดใสกว่าเดิม

จะมีอะไรประเสริฐยิ่งไปกว่าการสงเคราะห์อนุเคราะห์เด็กที่ทุกข์ยากสักคนในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ ที่สำคัญคือท่านจะได้รับความปีติยินดีอย่างยิ่งที่ได้สืบสานพระราชปณิธานใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

ปลูกต้นกล้า บ่มเพาะชีวิต กู้วิกฤติเด็กน้อย
ปีใหม่นี้ มอบชีวิตใหม่ ให้เด็กสักคน