พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ กับ มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา สนับสนุนทุนการศึกษา “โครงการครูสร้างชุมชน” เพื่อเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคลที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 70 พรรษา ในวันที่ 2 เมษายน 2568 มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ จึงพร้อมใจแสดงความกัตญญูกตเวทิตาคุณ ด้วยความจงรักภักดี โดยการจัดตั้งกองทุนเฉลิมพระเกียรติ 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินโครงการพิเศษ “ครูสร้างชุมชน” เพื่อสร้างโอกาสให้กับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกลที่มีใจรักในวิชาชีพครู มีสมรรถนะพื้นฐานของวิชาชีพ เป็น “ครูรุ่นใหม่” กลับไปพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชนบ้านเกิด เพื่อลดวงจรความเหลื่อมล้ำ

วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.เพื่อเด็กและเยาวชนฯ และ มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) สนับสนุนโครงการ “ครูสร้างชุมชน” พัฒนาเด็กและยกระดับชีวิตเยาวชนด้อยโอกาสในด้านการศึกษา โดยมีนายสุรนันท์ ศุภวรรณกิจ กรรมการและเหรัญญิก มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ดร.บรรจงเศก ทรัพย์โสภา ผู้อำนวยการมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับ นายสมคิด รุจีปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา นายวุฒิพงศ์ ชาครัตพงศ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ณ ห้องประชุมม่วงเทพรัตน์ ชั้น 3 มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ

มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา สนับสนุนทุนทางด้านการศึกษา “โครงการครูสร้างชุมชน” เพื่อให้เด็กด้อยโอกาสในความดูแลของมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีตามหลักสูตรที่กำหนด ระยะเวลา 4 ปี จำนวน 30 คน ใน 2 สถาบันการศึกษา คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย หลักสูตรคุรุศาสตร์บัณฑิต สาขาการศึกษาพิเศษ จำนวน 10 คน มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ วิชาเอกภาษาไทย จำนวน 20คน ยกระดับชีวิตเยาวชนด้อยโอกาสให้แก่เด็กในความดูแลของ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ มุ่งเน้นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาให้นักเรียนที่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ให้เด็กที่มีใจรักในวิชาชีพครู ได้มีโอกาสศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีอย่างมีคุณภาพ มีสมรรถนะพื้นฐานของวิชาชีพครู เป็น “ครูรุ่นใหม่” กลับไปสอนหนังสือเด็กในโรงเรียนทุรกันดาร มีศักยภาพในการช่วยพัฒนาชุมชน พัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชนบ้านเกิด เพื่อลดวงจรความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ห่างไกลอย่างยั่งยืน

“มนุษย์ที่เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้ สิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง คือ การได้เรียนเพื่อจะได้รู้ และนำความรู้นั้นมาใช้ในการดำเนินชีวิต ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทางตรง ก็คือ ได้รู้จริงและนำสิ่งที่รู้จริง มาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง ทางอ้อม ก็คือ การนำความรู้ที่ได้รู้จริง บอกต่อผู้อื่นให้ทราบและเข้าใจ จนเกิดการคิดและลงมือปฏิบัติได้ด้วย ตนเองเช่นกัน

"ครู" ผู้ให้ความรู้ จึงเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อเรา สังคม และโลกใบนี้”
- นายสมคิด รุจีปกรณ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา -

" "ครูรุ่นใหม่" ที่ก้าวสู่โรงเรียนทุรกันดาร อาจไม่ใช่แค่การส่งมอบครู แต่นี่คือการส่งมอบพลังของการเปลี่ยนแปลงที่นำศักยภาพกลับคืนสู่ชุมชนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลอย่างยั่งยืน เพื่อลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ และเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ทุกคนได้มีอนาคตที่สดใส"

- นายวุฒิพงศ์ ชาครัตพงศ์ รองประธานกรรมการมูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา -