เพราะสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงจำนวนผู้ได้รับเชื้อที่พุ่งสูงสร้างสถิติใหม่รายวันเท่านั้น การตรวจพบผู้ได้รับเชื้อรายใหม่ยังขยายวงกว้างออกไปจนครบทุกจังหวัดทั้งประเทศ (ข้อมูลจาก สบค. เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2564) ส่งผลให้การดำเนินชีวิตของเด็กและเยาวชน รวมถึงทุกคนในจังหวัดต่างๆ นอกพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด ที่มีท่าทีว่าจะกลับสู่ความเป็นปกติต้องชะงักลง เด็ก ๆ ต้องกลับสู่การเรียนรู้จากที่บ้าน ครอบครัวและชุมชนไม่สามารถทำมาหากินได้เช่นปกติ
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ได้ดำเนินงานส่งความห่วงใย และร่วมสร้างกำลังใจให้กับเด็กและเยาวชน ครอบครัว และทุกคนในชุมชน มอบ “ถุงยังชีพ” และ “ถุงอ่าน เขียน ปลูก สุข” เพื่อให้ทุกครอบครัวสามารถยังชีพได้ในภาวะฉุกเฉินที่กลับมารุนแรงอีกครั้ง ให้เด็กและเยาวชนพร้อมดูแลและป้องกันตนเอง รวมถึงการเสริมการเรียนรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนในการพัฒนาตนเองในการอ่าน การเขียน เพื่อให้พวกเขาไม่ขาดช่วงการพัฒนาการเรียนรู้ แม้จะไม่สามารถไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติก็ตาม
โดยล่าสุด โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดเลย จังหวัดแพร่ และจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับอาสาสมัครชุมชน ลงพื้นที่เพื่อมอบ “ถุงยังชีพ” และ “ถุงอ่าน เขียน ปลูก สุข" ให้กับเด็ก ๆ และเพื่อให้การส่งความห่วงใยจากมูลนิธิฯ มีความครอบคลุมถึงเด็ก ๆ มากที่สุด การมอบความช่วยเหลือเพื่อดูแลเด็กและครอบครัวจากโควิด-19 ในครั้งนี้ จึงมุ่งเน้นดูแลเด็กในพื้นที่ดำเนินงานของมูลนิธิฯ ทุกคนแม้ไม่ได้อยู่ในความดูแลในโครงการต่างๆ ของมูลนิธิฯ ก็ตาม
นอกเหนือจากการมอบความช่วยเหลือต่างๆ แล้ว เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. และอาสาสมัครชุมชน ยังได้ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์การล้างมือให้สะอาดอย่างถูกวิธี เป็นการย้ำถึงความสำคัญในการดูแลและป้องกันตนเองจากการติดเชื้อ ปรับพฤติกรรมของน้อง ๆ สู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) เพื่อความปลอดภัยห่างไกลโรค
มากกว่าสิ่งของที่มอบให้ก็คือความห่วงใยจาก มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาชนฯ อยากเห็นเด็กด้อยโอกาสทุกคน รวมถึงครอบครัวของพวกเขา ได้มีรอยยิ้ม และมีกำลังใจ เพื่อร่วมกันดูแลตนเองให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปให้ได้