แม้จะพยายามควบคุมการระบาดของโควิด-19 อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งวิกฤติรุนแรงนี้ได้ จากการระบาดในพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น ตลาด แคมป์ก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เริ่มแพร่กระจายสู่ครอบครัวและชุมชนในจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้อัตราผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในแต่ละวันมีสาเหตุการติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว สำหรับชุมชนในจังหวัดต่าง ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล เมื่อมี 1 คนติดเชื้อสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาโดยทันทีคือการต้องปิดหมู่บ้าน เฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้มีการแพร่กระจายของโรคออกสู่นอกหมู่บ้าน
“จังหวัดน่านเป็นอีกจังหวัดที่มีการพบผู้ติดเชื้อในชุมชน เริ่มต้นจากผู้ได้รับเชื้อที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงเพราะตกงาน ทำให้สมาชิกในครอบครัวที่สัมผัสใกล้ชิดได้รับเชื้อไปด้วย มีหลายชุมชนที่ต้องปิดหมู่บ้านเพื่อเฝ้าระวัง เพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กและทุกครอบครัวในหมู่บ้านที่ต้องปิดชุมชน โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกิน โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดน่าน โดยความร่วมแรงร่วมใจจากอาสาสมัครชุมชน ได้ช่วยกันจัดเตรียมถุงยังชีพ ประกอบด้วยอาหารแห้ง ไข่ไก่ และน้ำดื่ม ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับระยะเวลาที่ต้องกักตัว 14 วัน และได้นำไปมอบให้กับ 220 ครอบครัวใน 2 หมู่บ้าน พื้นที่อำเภอปัว และอำเภอสันติสุข ซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยในจำนวนนี้เป็นครอบครัวของเด็กในความดูแลของมูลนิธิฯ 83 ครอบครัว ถึงแม้ว่าเราจะเข้าไปมอบของให้ทุกคนในหมู่บ้านไม่ได้ แต่ก็ได้ส่งมอบผ่านคณะกรรมการหมู่บ้าน และอาสาสมัครในชุมชน เพื่อนำไปกระจายต่อให้กับทุก ๆ ครอบครัวในหมู่บ้านต่อไป” เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดน่าน ให้รายละเอียดสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่จังหวัดน่าน และการดำเนินงานเพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
และเพราะการระบาดที่กระจายตัวสู่ชุมชนในจังหวัดต่าง ๆ มากขึ้น โดยเป็นการติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว จากการติดตามดูแลเด็กในความดูแลของมูลนิธิฯ ที่จังหวัดน่าน พบว่ามีเด็กและเยาวชนจำนวน 2 คนได้รับเชื้อโควิด-19 และยังมีสมาชิกในครอบครัวของเด็กในความดูแลของมูลนิธิฯ อีก 1 ครอบครัวที่ได้รับเชื้อโควิด-19 ด้วย มูลนิธิฯ ได้ประสานงานกับคณะกรรมการหมู่บ้าน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงพยาบาลประจำจังหวัด นำเด็ก สมาชิกของครอบครัวเด็ก รวมถึงผู้ได้รับเชื้อคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านทั้ง 2 แห่งนี้เข้าสู่การรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาเด็ก ซี.ซี.เอฟ. จังหวัดน่าน ให้ข้อมูลการติดตามดูแลเด็กที่ได้รับเชื้อว่า “จากการติดตามอาการป่วยของเด็ก รวมถึงสมาชิกในครอบครัวที่ได้รับเชื้อ ทุกคนถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยระดับอาการสีเขียว คือ มีเพียงอาการป่วยเล็กน้อย ไม่มีอะไรเป็นกังวล และตอนนี้เด็ก ๆ ก็ได้กลับมาพักกักตัวดูอาการต่ออีก 14 วันที่บ้านแล้ว เพราะฉะนั้น ถุงยังชีพที่มีครบทั้งอาหารแห้ง ไข่ไก่ และน้ำดื่ม ที่ได้นำไปมอบให้กับทุกครอบครัวในครั้งนี้ ก็จะเป็นอีกส่วนสำคัญในการดูแลให้เด็ก ๆ ได้อิ่มท้องและได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่าในระหว่างการพักรักษาตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 ด้วย”
การระบาดของโควิด-19 ยังคงดำเนินต่อไป และยังไม่แน่นอนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ ขอนำส่งความห่วงใยมายังทุกท่าน อย่าลืมใส่ใจดูแลตนเองและคนที่ท่านรักด้วยการ "อยู่ห่างไว้ ใส่มาสก์กัน หมั่นล้างมือ ตรวจให้ไว" เพื่อเราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปด้วยกัน
