เหนื่อยหอบ หายใจลำบาก
จากภาวะปอดข้างซ้ายแฟบขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดปอดข้างซ้ายทิ้ง
"ต้นกล้า" เด็กชายที่เกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ทุกคนไม่ต้องการ นั่นคือ "โรคประจำตัว" ต้นกล้าป่วยเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่อายุ 3 เดือน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาน้องต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง จนอายุได้ 6 ขวบ ปอดของต้นกล้าไม่สามารถทำงานได้ปกติ แพทย์เร่งรักษาและผ่าตัดปอดข้างซ้ายทิ้ง ปัจจุบันต้นกล้าต้องใช้ชีวิตด้วยปอดเพียงข้างเดียว แต่อาการป่วยจากหอบหืดก็ยังไม่ทุเลา ต้นกล้าต้องหยุดเรียนเพราะต้องอยู่บ้านในห้องที่มีอากาศสะอาด ปลอดฝุ่นควันเท่านั้น เพื่อป้องกันอาการช็อกที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ตลอดเวลาที่ต้นกล้าต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ยายของต้นกล้าก็จะเฝ้าและดูแลไม่ห่าง ยายบอกกับเจ้าหน้าที่ ซี.ซี.เอฟ. ว่า “เคยคิดว่าน้องคงไม่มีโอกาสรอดแล้วแน่ ๆ เพราะยาที่ใช้รักษาน้องในแต่ละครั้ง เป็นยาที่แรงมาก บ่อยครั้งที่อาการหอบหืดกำเริบ ต้นกล้าจะบอกกับยายว่า "ผมจะต้องหาย ผมจะต้องได้กลับบ้าน ผมจะสู้" คำพูดของต้นกล้าทำให้ยายใจชื้นขึ้น มีกำลังใจที่จะสู้ไปด้วยกันให้ถึงวันที่จะต้องจากลา
พี่ ๆ พยาบาลที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เคยเล่าว่า “ต้นกล้าเป็นเด็กร่าเริง ฉลาด อยากรู้อยากลองสิ่งต่างๆ เวลาที่พี่ ๆ สอนให้วาดรูประบายสี ต้นกล้าก็สามารถเรียนรู้และฝึกฝนได้เป็นอย่างดี ถ้าต้นกล้าได้มีโอกาสเรียนหนังสือตามปกติเหมือนเพื่อน ๆ คงได้แสดงความสามารถที่หลากหลายตามวัยของเขา ถึงแม้น้องจะมีสุขภาพร่างกายที่ไม่แข็งแรง แต่หัวใจยังคงเข้มแข็งพร้อมสู้กับโรคร้ายด้วยหัวใจที่เด็ดเดี่ยวมากค่ะ”
"ต้นกล้า .. แห่งความหวัง" แม้ในวันนี้ร่างกายยังอ่อนล้า แต่ทุก ๆ ครั้งที่พี่ฝ้าย หัวหน้าโครงการ ซี.ซี.เอฟ. จ.สกลนคร ไปเยี่ยมและถามสารทุกข์สุขดิบ ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความร่าเริง สดใส ในระหว่างที่ต้นกล้าพยายามเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างเดินทางไปหาหมอให้ฟัง แม้ร่างกายจะอ่อนแอแต่ต้นกล้ากลับมีหัวใจดวงเล็ก ๆ ที่เข้มแข็ง หัวใจที่ยังสามารถส่งต่อพลังดี ๆ ให้พี่ฝ้าย และพี่ ๆ ซี.ซี.เอฟ. ทุกคนได้รับรู้ และนี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทุกคนพยายามช่วยเหลือและมอบกำลังใจให้กันและกัน ตราบใดที่เราทุกคนยังคงมีลมหายใจ