"น้องแตงกวา"

รอยยิ้มสดใสที่ภายในซ่อนความลำบาก

เด็กหญิงสุกัญญา หรือ น้องแตงกวา เด็กผู้หญิงตัวเล็กจากตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานีด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง สดใส ดูแล้วอาจไม่รู้ได้เลยว่าน้องแตงกวาต้องเผชิญกับปัญหาโรคประจำตัวหอบหืด โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ที่อากาศทั้งร้อน ทั้งชื้น

ครอบครัวของน้องแตงกวาไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง บ้านหลังเล็กของน้องจึงตั้งอยู่ในที่สาธารณประโยชน์ในหมู่บ้าน อาศัยปลูกกระต๊อบอยู่กันมาตั้งแต่รุ่นย่าของน้องแตงกวา จน ตชด 22 ได้มาสร้างบ้านหลังเล็กให้ใหม่เมื่อ 2 ปีที่ผ่าน

บ้านหลังเล็กของครอบครัวแค่เดินเข้าไปก็เห็นกาละมังใบใหญ่ 2 ใบ ตั้งไว้รองน้ำฝนจากหลังคารั่ว ไฟฟ้าแสงสว่างในบ้านมีเพียงหลอดไฟ 1 ดวง โทรทัศน์เก่า 1 เครื่อง บ้านนี้ไม่มีตู้เย็นถึงแม้มีผู้อยากบริจาคของเก่าให้ พ่อก็ไม่รับ เนื่องจากกังวลเรื่องค่าไฟฟ้าที่จะสูงขึ้นและจ่ายไม่ไหว บ้านนี้มีแค่หม้อหุงข้าวเก่า ๆ ไม่มีเตาแก๊สใช้ เวลาทำกับข้าวก็ใช้เตาฟืนที่หาเก็บไม้จากใกล้ ๆ ถึงแม้รอบบ้านพอมีที่ว่างก็ไม่กล้าปลูกผักสวนครัว เพราะกลัวว่าค่าน้ำประปาชุมชนที่ใช้จะสูงกว่า 60 บาท ที่จ่ายทุกวันนี้



พ่อผู้สูงวัย กับภาระที่แบกไว้ตามลำพัง

น้องแตงกวา เกิดมาในครอบครัวที่ขัดสน อาศัยอยู่กัน 2 คนกับพ่อผู้ชราอายุ 66 ปี ที่ไม่มีรายได้ประจำเพราะมีโรคประจำตัว น้ำท่วมปอด และขาบวม ไม่สามารถทำงานหนักได้ รายได้หลักของครอบครัวมีเพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 600 บาทต่อเดือน ต้องแบ่งเป็นค่าข้าวสาร ค่ากับข้าววันละ 10 บาท และค่าขนมวันละ 10 บาทให้น้อง ค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากนั้นจึงมาจากการที่พ่อต้อออกไปหาเก็บหอย เก็บปู ไปขายได้เงินมาครั้งละ 40 บาท ด้วยอาหารการกินขาดแคลนที่สุดในบ้าน อาหารที่จัดว่า “ดีแล้ว” ของน้องคือ มาม่าต้มกับเห็ดป่ารอบบ้านเท่านั้น ไม่ต้องฝันถึงหมู ไก่ ที่ไม่มีเงินซื้อ


เด็กหญิงตัวเล็กกับหัวใจนักสู้

แม้อายุเพียง 12 ปี น้องแตงกวาก็พยายามช่วยพ่อเท่าที่ทำได้ ไปรับจ้างเฝ้าร้านในหมู่บ้านได้เงินครั้งละ 50 บาท หรือร้องเพลงในงานโรงเรียนได้เงินค่าร้อง 20 บาท ทุกบาททุกสตางค์ น้องเก็บไว้ให้พ่อใช้จ่ายด้วยความภาคภูมิใจ ยามว่างยังช่วยพ่อทำกับข้าว ทำความสะอาดบ้าน และดูแลไก่เกือบ 20 ตัวที่เธอตั้งชื่อเองอย่างรักใคร่


โรคหอบหืด..อุปสรรคที่ไม่เคยทำให้หยุดสู้

ในวันที่อาการกำเริบ น้องแตงกวาชักเกร็งจนพ่อจำเป็นต้องอุ้มไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านให้โทรเรียกรถพยาบาล 1669 เพราะที่บ้านนี้ไม่มีทั้งโทรศัพท์และโทรศัพท์มือถือ จึงไม่สามารถติดต่อใครได้ ทุกครั้งที่เจ็บป่วย พ่อและลูกต้องช่วยกันประคองชีวิตให้อยู่รอดไปได้ด้วยความเข้มแข็ง





รักแท้…ที่ไม่ทอดทิ้งกันแม้ในยามยาก

พ่อและแม่ของแตงกวาเคยทำงานรับจ้างเก็บผลไม้ที่ภาคตะวันออก แต่สุดท้ายต้องแยกทางกัน พ่อเลือกพาน้องกลับมาเลี้ยงดูเอง แม้แม่เคยมารับ น้องก็เลือกอยู่กับพ่อ เพราะสงสารพ่อที่แก่และป่วย ไม่มีใครดูแล “การได้อยู่กับพ่อที่แสนดี ถึงจะยากลำบาก ก็ยังเป็นความโชคดีของหนู” คำพูดของแตงกวาที่บอกชัดว่า ความรักไม่จำเป็นต้องมีพร้อมทุกอย่าง แค่ไม่ทอดทิ้งกันก็เพียงพอ


ความห่วงใยที่พ่อได้แต่เก็บไว้ในอก

ความกังวลใหญ่ที่สุดของพ่อคือ เมื่อแตงกวาจบ ป.6 จะยังมีแรงส่งลูกเรียนต่อหรือไม่ หากวันหนึ่งพ่อจากไป แตงกวาจะอยู่กับใคร จะยังมีโอกาสในชีวิตหรือไม่ แม้จะมีญาติอยู่หมู่บ้านใกล้เคียง แต่ทุกคนก็ล้วนแก่ชราและไม่มีใครพร้อมรับภาระนี้ต่อ


ร่วมเป็นแสงเล็กๆ ที่ต่อชีวิตและความฝันของแตงกวา

เพราะเด็กทุกคนควรได้ไปต่อ… แม้เกิดมาในวันที่ไม่มีอะไรพร้อม ท่านสามารถช่วยให้น้องแตงกวาได้เรียนต่อ มีอาหารดี ๆ และมีอนาคตที่ปลอดภัยยิ่ง ให้รอยยิ้มเล็ก ๆ ของเธอได้เกิดขึ้นอีกครั้ง



อุปการะเด็ก 600 บาท/คน/เดือน




มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ เป็นองค์การสาธารณกุศลลำดับที่ 171 ของประกาศกระทรวงการคลังเงินบริจาคของท่านสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามที่กฎหมายกำหนด




บริจาค