สิ่งเดียวที่เขาฝัน คือ โอกาสได้ไปโรงเรียนทุกวัน | CCF

"น้องนินจา"

เติบโตมาโดยปราศจากความรักและไออุ่น

เติบโตมาโดยปราศจากความรักและไออุ่น ตอนอายุเพียง 2 เดือน พ่อและแม่แยกทางต่างไปมีครอบครัวใหม่ ทิ้งน้องนินจาไว้กับย่าที่แก่ชรา ลำพังเดินไปไหนก็แสนยากลำบาก แต่ย่าก็พยายามเลี้ยงดูหลานเต็มกำลัง จนน้องนินจาอายุได้ 6 ขวบ ย่าผู้ทำงานหนักมาทั้งชีวิตเกิดล้มป่วยกะทันหัน จำต้องส่งหลานให้ไปอยู่กับลุงเสกสรรค์ (พี่ชายต่างพ่อ) ที่ป่วยด้วยโรคร้ายแรงเรื้อรังไม่มีวันรักษาหาย เลี้ยงดูในบ้านที่มีห้องนอนเดียวสภาพทรุดโทรม


ไม่รู้ว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

ลุงทนกัดฟันเลี้ยงหลานด้วยร่างกายอ่อนล้าจากภูมิคุ้มกันร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนบ่อยครั้ง ทุก ๆ วัน ลุงยังฝืนลุกขึ้นมา หุงหาอาหารให้หลานก่อนไปรับจ้างทำงานในไร่กลางแดดร้อน บ่อยครั้งลุงมักมีอาการวูบจากภาวะความดันต่ำ สองปีก่อน (2566) ลุงต้องหยุด พักรักษาตัวจากอาการน้ำท่วมปอดในโรงพยาบาลนับสัปดาห์ ทั้งสองชีวิตลุงและหลานใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อาหารหลักช่วยบรรเทา ความหิวโหย คือปลาตัวเล็ก ๆ ที่พอหาได้ในลำห้วยใกล้บ้าน


ดิ้นรนทุกวิถีทาง เพื่อความอยู่รอด

“พอคิดถึงหลานทีไรก็บอกตัวเองว่า หยุดไม่ได้ ๆ ต้องทำงาน เพื่อให้มีเงินซื้ออาหารเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ยิ่งอาการทรุดบ่อยรายได้ก็ยิ่งน้อย บางวันไม่มีเงินซื้อข้าว สงสารหลานมากถ้ามีโอกาสผมอยากให้เขาได้เรียนสูง ๆ ให้เขามีอนาคตดี ๆ เหมือนคนอื่น ตอนนี้ทางเดียวที่ผมทำได้ คือพยายามไม่ให้เขาขาดเรียน” ลุงพูดด้วยน้ำเสียงระทมทุกข์ใบหน้าหม่นหมอง


ไม่สู้ก็อด...เด็กต้องทำงานหนักอย่างไม่มีทางเลือก

มือเล็ก ๆ ข้างซ้ายถือกระป๋อง อีกมือหนึ่งข้างขวาหยิบเมล็ดข้าวโพดลงหลุมด้วยความคล่องแคล่ว ท่ามกลางแดดที่แผดเผาเกินเด็กวัย 8 ขวบอย่าง “น้องนินจา” จะทนไหวแต่เขาก็ทนเพราะอยากแบ่งเบาภาระของลุงคนเดียว ที่เขามีอยู่ “วันเสาร์หนู จะไปรับจ้างปลูกข้าวโพดในไร่ ทุกครั้งที่ได้เงินมา 50-60 บาท ก็เอาไปฝากลุงเอาไว้ ลุงจะได้มีเงินไว้ซื้อข้าวครับ”



ปาฏิหาริย์แห่งความหวังยังเลือนราง

หากวันไหนโรงเรียนหยุด น้องนินจายังไปช่วยลุงเก็บขยะในบ้านและหมู่บ้านมาคัดขาย เพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัวด้วยอีกทางหนึ่ง “ผมอยากเห็นเขาเรียนจนสำเร็จ เติบโตมีชีวิตที่มั่นคง แต่กว่าวันนั้นจะมาถึง ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะมีสุขภาพดีเพียงพอที่จะได้เห็นความสำเร็จของเขาในวันนั้นหรือเปล่า? เขาใช้ชีวิตอย่างไรหรือจะมีใครดูแล?” ลุงถอนหายใจยาวได้แต่เฝ้าภาวนาในใจให้ปาฏิหาริย์แห่งความหวังเกิดขึ้นจริงในเร็ววัน ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป


ร่วมมอบโอกาสและต่อความหวังของ “น้องนินจา” ขณะนี้ครอบครัวเด็กขาดแคลนอย่างมาก พยายามต่อสู้กับความทุกข์โดยไม่ย่อท้อต่องานหนักและความเหนื่อยยากเพื่อมีชีวิตรอด แต่การที่พวกเขาจะฝ่าฟันอุปสรรคให้ชีวิตหลุดพ้นความยากลำบากโดยลำพังไม่ใช่เรื่องง่าย เด็กๆ จะเติบโตอย่างมีความสุขได้อย่างไร หากไม่มีคนคอยสนับสนุนโอกาสที่ดีให้กับพวกเขา


ท่านคือ “คนสำคัญ” ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ให้ “น้องนินจา” ได้เรียนต่อ ได้มีชีวิตใหม่ที่มั่นคงปลอดภัย และหลุดพ้นจากวังวนความขาดแคลนนี้

ขอท่านร่วมมอบ “โอกาสครั้งสำคัญนี้” เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตเด็กด้อยโอกาส

“น้องวันใหม่” อายุ 9 ขวบ จ.แม่ฮ่องสอน

หลังจากพ่อกับแม่แยกทาง น้องวันใหม่และพี่สาว ต้องขอไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังเล็กๆ ของลุง ที่มีสมาชิกอยู่กันอย่างแออัดในบ้านถึง 7 คน แต่ละมื้ออาหารก็ไม่เพียงพสำหรับทุกคนกินอิ่มท้อง

“น้องจันทร์เจ้า” อายุ 7 ขวบ จ.นครพนม

เมื่อแม่ที่ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วจำต้องไปทำงานไกลบ้านเพื่อหาเงินเลี้ยง 3 ชีวิต “น้องจันทร์เจ้า” อาศัยอยู่กับตาและยายในใต้ถุนบ้านเก่า บันไดผุพัง ไร้เครื่องใช้ไม้สอยและของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน

อุปการะเด็ก 600 บาท/คน/เดือน

กระท่อมและก้อนเชื้อเห็ด 50 ก้อน เป็นเงิน 3,000 บาท





มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนฯ เป็นองค์การสาธารณกุศลลำดับที่ 171 ของประกาศกระทรวงการคลังเงินบริจาคของท่านสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีตามที่กฎหมายกำหนด




บริจาค

ความเป็นส่วนตัวของคุณคือสิ่งสำคัญสำหรับเรา เราต้องการข้อมูลของคุณเพียงเพื่อการประมวลผลที่จำเป็นต่อการให้บริการ
ถ้าคุณยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงในการใช้งานที่รวมถึง PDPA ของไทย อ่านเงื่อนไขการรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่นี่ คลิก